Wednesday, February 24, 2010

ร ะ ห ว่ า ง ท า ง ผ่ า น

   ถึงอย่างไร คนเราก็ต้องมีเวลาสำหรับทำธุระส่วนตัวเล็กๆน้อยๆกันบ้าง
เขาคิด  ขณะสองมือกุมพวงมาลัยเกร็งกระชับซึมเหงื่อ  เพ่งสายตาเครียดเกร็ง
ไปตามแนวถนนเรียบโล่งที่มีไอแดดเช้าอุ่นอวล  สลับกับเหลือบมองดูป้าย
ตลอดริมรายทาง
            มันจะเสียเวลาไปสักเท่าไหร่กันเชียว  เขาพึมพำราวจะปรารภกับตัวเอง
เพื่อนฝูงที่สู้อุตส่าห์คบหากันนานปี  หากจะมาถือสาหาความเอากับการ
ที่เขาปล่อยให้นั่งจิบเบียร์เย็นๆริมชายหาดแถวๆนั้นรอเขาช้ากว่านัดไปไม่กี่นาที 
.
ก็ให้มันรู้ไป..  

เขานึกปลอบใจตัวเอง เผลอปริยิ้ม ก่อนจะรีบสาวพวงมาลัย  เลี้ยวรถ
เข้าไปภายในสถานีบริการน้ำมันขนาดกลาง แต่ตกแต่งแลดูทันสมัย  
ก่อนจะถึงตัวเมืองชายทะเลปลายทางนัดหมายเพียงไม่กี่กิโลเมตรอย่างกะทันหัน
โดยเกือบลืมเปิดไฟเลี้ยวให้สัญญาณรถคันหลังไปเสียสนิท ด้วยอารามลิงโลด
ที่จะได้ปลอดปล่อยความทุกข์กังวลที่ถมทับเต็มท้นมาตลอดทาง  นับตั้งแต่
เริ่มหลุดพ้นออกจากประตูรั้วบ้านมาได้ไม่นานนั้นแล้ว
.           
            และไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่า  รถเก๋งสีดำเลขทะเบียนสวยคันที่ขับจี้
ตามมาอย่างกระชันชิดนั้น  ได้เร่งเครื่องตีคู่ตามมา กระทั่งทันได้จอดเทียบ
อยู่ข้างๆรถยนต์อเนกประสงค์กลางเก่ากลางใหม่คันโปรดของเขานั่นเอง
            ในขณะที่เร่งเดินตัวปลิวเข้าไปจับจองห้องน้ำว่างๆ  ที่มีเหลืออยู่
เพียงไม่กี่ห้อง  เขาพยายามครุ่นคิดถึงรายละเอียดของอาหารมื้อเย็นวาน
ที่เขารับประทานเข้าไป  ว่ามีส่วนประกอบใดบ้างที่ทำให้เขาต้องมาเสียเวลา
ไปกับเรื่องไม่เข้าท่าอย่างในขณะนี้  แทนที่จะได้นั่งเคาะนิ้วฟังเพลงปูอารมณ์
ในระหว่างบึ่งทะยานไปให้ทันเวลา  ตามที่ได้ตกลงนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า
อย่างชัดเจน

คงจะไม่ใช่พล่ากุ้งหรอก  เขาคิด  ท่าจะเป็นปลาหมึกนึ่งมะนาวนั่น
แหละมากกว่า  แต่ช่างเถอะ, ในเมื่อทุกอย่างมันก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี 
จนถึงเพียงนี้แล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้  จะชวนให้ใจหายใจคว่ำไปบ้างก็ตามที 
ถือเสียว่าเป็นสีสันของการเดินทางเอาไว้คุยอำกันขำๆเล่นไปก็แล้วกัน 
.           
            เขาไม่ลืมสำรวจใบหน้าของตัวเอง  ที่ดูผ่อนคลายลงในกระจกเงา
เหนืออ่างล้างหน้า  ขณะคลับคล้ายว่า  มีใครสักคนยืนจ้องรอคิวอยู่ใกล้ๆ
โดยไม่ยอมไปใช้อ่างล้างหน้าชุดอื่นที่พอมีเหลือว่างอยู่ เขาจึงไม่นึกอยากหัน
ไปใส่ใจ  จนใครคนนั้นเป็นฝ่ายก้าวปึงๆผละจากไปเสียเอง
กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นโชยมา อากาศในเช้านี้ช่างอบอุ่นดีเหลือเกิน 
เขาบอกกับตัวเอง ก่อนจะเดินผิวปากเลาะสวนหย่อมเล็กๆกลับมายังลานจอดรถ

รถเก๋งสีดำคันนั้นจากไปก่อนแล้ว  คงเหลือแต่รถของเขาและรถคันอื่นๆ
เพียงไม่กี่คันจอดอยู่ในบริเวณเดียวกัน  อาจจะยังเช้าไป เขาคิด  ขณะเดินมา
เปิดประตูรถ
            แต่แล้วเขากลับชะงักงัน  ทันทีที่หันไปเห็นรอยขูดขีดเป็นร่องลึก
อย่างจงใจ  จนเปิดสีเคลือบผิวที่เขาเฝ้าทะนุถนอมขัดถูให้แลดูสะอาดเอี่ยม
เป็นมันวาวอยู่เสมอ  กลับเผยให้เห็นถึงชั้นเนื้อโลหะสีเทาซีดจนน่าเกลียด
เป็นทางยาวตั้งแต่ขอบประตูด้านหน้าไปจนเกือบสุดประตูด้านหลัง
.
            เขาเผลอเอื้อมไปลูบเบาๆ  รู้สึกน้ำตาซึม  เหมือนขณะลูบรอยแผล
เปิดกว้างจากน้ำมือของคู่ปรับ  ที่ทิ้งไว้บนเนื้อตัวแขนขาของเขาเอง
ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นรถ  ปิดประตูโครม  แล้วกระชากรถคู่กาย  ห้อตะบึง
ติดตามรถเก๋งสีดำคันนั้นไปอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อกลับขึ้นมาอยู่บนทางหลวงแผ่นดินอีกครั้ง  เขาพยายามประคอง
พวงมาลัยไว้ด้วยมือซ้ายอันสั่นระริกและซึมเหงื่อ  ขณะมืออีกข้างเอื้อมไปเปิด
ฝากระติกน้ำแข็งใบย่อมที่เขาติดรถมาด้วยเสมอ  เขาควานลงไปคว้าอาวุธปืน
พกสั้นขนาด 11 ม.ม.ที่ซุกอยู่ก้นกระติกออกมากุมมั่นไว้ในมือ  สัมผัสได้ถึง
ความเยียบเย็นของเนื้อโลหะมันวาว  ขณะสอดส่ายจับจ้องมองหาเป้าหมาย
เบื้องหน้าอย่างกระเหี้ยนกระหือรือและไม่วางตา
.
            แค่เสียเวลารอเขาทำธุระส่วนตัวเล็กๆน้อยๆต่ออีกไม่กี่ปีในคุกแถวๆนี้
ลูกผู้ชายที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่นมยังไม่แตกพาน คงไม่นับว่านาน
จนเกินรอหรอกนา  เขางึมงำปลอบโยนตัวเองด้วยน้ำเสียงเครียดเคร่ง 
.
รู้สึกถึงกลิ่นอายของชายฝั่งทะเลแผ่วจางและห่างไกลออกไปในทุกขณะ..

Source : http://www.oknation.net/blog/cottonhut/2010/01/17/entry-1




No comments:

Post a Comment