Saturday, September 4, 2010
ลึกลึกแล้ว-ไพวรินทร์ ขาวงาม
ลึกลึกแล้วเธอเศร้า
ยังเก็บงำความเหงาไว้เงียบสงบ
แต่วงแก้วแห่งแววตาคราฉันพบ
ลำแสงเศร้าในเงาพลบก็ส่องเธอ
ลึกลึกแล้วเธอร้องไห้
ซ่อนรอยยิ้มพิมพ์ในใบหน้าเสนอ
หนึ่งธารน้ำซึ่งใจเธอค้นเจอ
คือธารน้อยนิ่งเอ่อในห้วงใจ
ลึกลึกแล้วเธอขลาด
ด้วยฉายแววเผลอหวาดระแวงไหว
แม้ประตูถูกปิดมิดชิดไว้
เสียงลี้ลับภายในก็กังวาน
ลึกลึกแล้วเธออ่อนแอ
หากไม่พร้อมยอมแพ้ในทางผ่าน
ยังหยัดเงียบเรียบง่ายในการงาน
ยังสะสมแก่นสาร เดินทางไกล
ฉันอาจผิดที่คิดว่า
จะเก็บดวงดาริกาให้เธอได้
จะซับหยาดน้ำเศร้า จะเข้าใจ
จะปลูกมวลดอกไม้ในสวนมวล
จะอยู่แกร่งแข็งกว่าหินผาอยู่
จะฉ่ำพรมกว่าลมรู้ฤดูหวน
จะมั่นคงในค่าที่ว่าควร
จะเป็นหนึ่งในจำนวนมิอาจนับ
อนิจจา ชีวีที่เคลื่อนไหว
สิ่งที่จับต้องได้ก็แตกดับ
สิ่งที่เป็นเพียงฝันก็ล่องลับ
สะดุ้งตื่นขึ้นจากหลับด้วยฝันร้าย
ฉันรู้สึกผิดบาป สารภาพว่า
ฉันเผลอให้ดาริกานั้นตกหาย
ฉันเฉยเมย ละเลยน้ำตา ที่หยาดพราย
และอับจนถึงต้องขายดอกไม้ไป
เป็นหินผาที่เศร้าโศก
เป็นสายลมห่มโลกที่ป่วยไข้
มีคุณค่าสักธุลีก็ลี้ไกล
มีนิ่มเนื้อก็ซ่อนในเกราะกำบัง
เกราะกำบัง ฉันสร้างจากความขลาด
ยอมให้เหล็กแข็งคาดนั้นกักขัง
เพื่อปลอดภัยในกำแพงแห่งความชัง
และเสรีในรวงรังเฉพาะตน
ฟังสิ ความเงียบใคร
เปลี่ยวชำแรกแทรกไปในทุกหน
อึกทึกกึกก้องทั้งมณฑล
สะท้อนใจไหวเสียจนระทึกใจ
ถ้าเธอถามฉันว่า
จะเก็บดวงดาริกามาอีกไหม
คงต้องตอบเธอว่า – ฟ้านั้นไกล
ฉันมิเคยก้าวไปพ้นตัวเอง
ลึกลึกแล้ว ฉันรู้สึก
ว่าชีวิตลึกลึกถูกข่มเหง
จะวุ่นวาย อ้างว้าง จะวังเวง
จะขับเพลงสักเพลงยังผิดใจ
ฟังสิ นี่คำสารภาพ
ผิดทุกผิด บาปทุกบาป หรืออาจไถ่
แอบฝันตามแววตาเธอคราใด
ฉันก็แล้งเกินไป จะลึกซึ้งฯ
ไพวรินทร์ ขาวงาม แต่ง ๒๕๓๐ รวมเล่ม ฤดีกาล ๒๕๓๒
Tuesday, July 27, 2010
อีกครั้งกับ ผ่านพบไม่ผูกพัน (เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
ทั้งสร้างสรรค์และสงบสุขมากขึ้น คำตอบที่ตรงที่สุดคือความกล้า
อย่างไรก็ตาม ความกล้าหาญทางจิตวิญญาณนั้นต่างจากความกล้าในความหมายสามัญ คือ
มิได้มีไว้สู้รบกับผู้ใด หากหมายถึง การเปิดกว้าง ต้อนรับทุกเหตุการณ์ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างไม่สะทกสะท้าน
จากนั้น ค้นหาจุดลงตัวในการสัมผัสสัมพันธ์กับมัน
สิ่งตรงข้ามกับความกลัวอีกอย่างหนึ่งคือ ความรัก
ทั้งนี้เพราะความรักในระดับจิตวิญญาณที่ปราศจากขอบเขตและเงื่อนไขจะบังเกิดได้
ก็ต่อเมื่อเราเอาชนะความต้องการและความคาดหวังแบบคับแคบเสียก่อน
ความรักในความหมายนี้ นับเป็นพลังงานที่ทรงอานุภาพอย่างยิ่ง
ทำให้เกิดพลังสร้างสรรค์และการมองโลกเชิงบวกได้ต่อเนื่อง....
...ผ่านพบโดยไม่ผูกพัน บางที อาจลึกซึ้งยั่งยืนกว่าร้อยหัวใจเข้ากับทุกอย่าง
ด้วยโซ่ตรวนที่มักตั้งชื่อผิดๆ ว่า " ความรัก "....
..บางที เราอาจเดินทางเพื่อหาที่ทิ้งขยะในหัวใจ...
...บางท่าน แต่งผิวนอกไว้แกร่งกร้าน เนื่องเพราะเนื้อในแน่นคับเกินกว่าจะมีพื้นที่ให้ผู้อื่น
บางคน เย็นชาแข็งกระด้าง เพราะรู้ดีว่า หัวใจของตนอ่อนนุ่มเกินกว่าจะเปิดเผย...
...ยามหมอกฝนโปรยปรายใส่หินผา ท่านอาจร่วมร้องไห้กับผาหิน...
...บางครั้ง เราเต็มใจเป็นสะพานให้ใครบางคนก้าวข้าม
แต่ห้วงยามแห่งการเสียสละกับห้วงยามแห่งการพลัดพราก ก็มักจะเกิดขึ้นพร้อมกัน
ทั้งนี้ เพราะสะพานย่อมมิใช่ที่อยู่ถาวรของผู้ใด...
...คนเราเกิดมาในโลก แท้จริงแล้วจะมีเพื่อนร่วมทางสักกี่คน
ส่วนใหญ่ที่สุดก็เป็นเพียงคนข้างทางของกันและกัน...
...คนข้างทางในชีวิตเราไม่ได้ปรากฏตัวอย่างไร้เหตุผลเสมอไป
ผู้แปลกหน้าเหล่านี้ อาจจะมาพร้อมกับข่าวสารบางอย่าง
ที่ช่วยเติมเต็มความรับรู้หรือกระตุ้นสำนึกดีๆ ที่หายไปให้กลับคืน
หากเรารู้จักอ่านความหมายของการพบกัน...
...เนื่องเพราะในยามที่อ่อนแอและอยากถูกรัก
ผู้คนอาจสับสนได้ระหว่างความรักที่คิดมอบให้ผู้อื่นกับความรักทีมีต่อตัวเอง...
...ถ้าเราอยากรู้จักผู้ใดอย่างแท้จริงสักคน
จงดูเส้นทางที่เขาเลือกและวิถีปฏิบัติของเขาขณะอยู่บนเส้นทาง
แต่ไม่ควรใส่ใจดูว่า เขาไปถึงปลายทางหรือไม่...
Monday, March 8, 2010
อหังการของดอกไม้
สตรีมีสองมือ
มั่นยึดถือในแก่นสาร
เกลียวเอ็นจักเป็นงาน
มิใช่ร่านหลงแพรพรรณ
สตรีมีสองตีน
ไว้ป่ายปีนความใฝ่ฝัน
ยืนหยัดอยู่ร่วมกัน
มิหมายมั่นกินแรงใคร
สตรีมีดวงตา
เพื่อเสาะหาชีวิตใหม่
มองโลกอย่างกว้างไกล
มิใช่คอยชม้อยชวน
สตรีมีดวงใจ
เป็นดวงไฟไม่ผันผวน
สร้างสมพลังมวล
ด้วยเธอล้วนก็คือคน
สตรีมีชีวิต
ล้างรอยผิดด้วยเหตุผล
คุณค่าเสรีชน
มิใช่ปรนกามารมณ์
ดอกไม้มีหนามแหลม
มิใช่แย้มคอยคนชม
บานไว้เพื่อสะสม
ความอุดมแห่งผืนดิน !
ประชาธิปไตย
4 พฤศจิกายน 2516
จิระนันท์ พิตรปรีชา
Wednesday, February 24, 2010
ร ะ ห ว่ า ง ท า ง ผ่ า น
Thursday, February 18, 2010
เมื่อต่างเราตื่นลืมตา - Thai Poem
ลุกขึ้นหยิบคว้า
หาเสียงอีกฝั่งปลายสาย
ได้ยินชัดแผ่ว-แว่วกลาย
รักเรามากมาย
เช่นกันที่ฉันรักเธอ
กระซิบอีกครั้งยังเผลอ
ยิ้มฝันละเมอ
ละไมอิ่มแต้มแง้มรัก
เธอบอกวางใจใส่ตัก
เปลนอนผ่อนพัก
เราจักเกี่ยวก้อยสู่รุ้ง
เจ็ดสีตะวันรางรุง
สองมือจับจูง
สุขนักหวานถักรักทอ
เช้าตื่นต้นไม้หน้าบ้าน
ยิ้มงามสลอ
เข็มแดง บิโกเนียบานรอ
โมกรักออกช่อ
ชะลิ่วสูงเย้ยแดดวัน
.
.
.
วันแห่งรักที่เรามิเจอกันเช่นทุกอาทิตย์สุขสันต์
ทว่ารู้สึกแห่งใจนั้น - อิ่มเต็ม .
ขอบคุณ : http://www.oknation.net/blog/weed/2010/02/14/entry-1/comment#read
Tuesday, February 16, 2010
พยายามต่อไปหรือตัดใจดี
ความรัก
มักทำให้เรามีความพยายามอย่างมากมาย
ในการเอาชนะใจใครบางคนให้จงได้
แต่คนบางคนก็ใจแข็งเสียจนทำให้ความพยายามของเรา
ต้องเดินย่ำอยู่ในวังวนแห่งความท้อแท้
บางครั้งบางที ความรักก็พาเรามายืนอยู่ตรงกลาง
ระหว่างทางเลือก 2 ทาง ที่ไม่อาจเลือกทางใดได้
เพราะไม่ว่าจะพยายามต่อไปหรือตัดใจลง
ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ยากต่อการตัดสินใจแทบทั้งนั้น
กับสถานการณ์แบบนี้
เราควรทำอย่างไร
พยายามต่อไปหรือว่าจะตัดใจดี
สำหรับความพยายาม
ในการเอาชนะใจคนใจแข็งที่เราหลงรัก
ก็คงไม่ต่างอะไรไปจาก
การเขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง
เมื่อได้ลงมือเขียนแล้ว
อย่าเพิ่งละทิ้งกลางคัน
พยายามเขียนต่อไปให้จบ
ส่วนตอนจบของหนังสือเล่มที่ว่านี้
จะถูกใจคนอ่านคนนั้นหรือไม่
-อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่เราต้องยอมรับมัน-
เท่านั้นเอง
จริงอยู่
ถ้าความพยายามทำให้เราต้องพบกับความผิดหวัง
วันเวลามากมายที่ได้ทุ่มเทลงไปอาจทำให้เรารู้สึกมากกว่า เสียใจ
แต่ว่า
ในเรื่องเดียวกัน
มักมีความเสียใจอยู่ 2 อย่างที่แตกต่างกันเกิดขึ้นเสมอ คือ
หนึ่ง ....ความเสียใจ
ที่เกิดจากการได้ลองพยายามจนถึงที่สุดแล้ว
แต่ต้องพบกับความผิดหวัง
และสอง ความเสียใจ
ที่เกิดจากการไม่ได้ลองพยายามจนถึงที่สุด
และในความต่าง 2 อย่างนี้
มีความเสียใจอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ที่มันจะ ตกค้าง อยู่ภายในหัวใจเราไปตลอดชีวิต
นายแทน
เลือกเรื่องราวบางเรื่อง จากหนังสือ "รักแท้ไม่เท่าเข้าใจ" ของนายแทน (คนกันเอ๊ง กันเอง)
มาอัพบล็อก ในวันวาเลนไทม์นี้
แม้จะยืนยันยังไม่ได้ว่า จริงๆแล้ว คนเราแสวงหา
รักแท้ หรือแสวงหา ความเข้าใจกันแน่
คนเรามีหัวใจ
แต่คงไม่ทุกคนที่จะรู้ว่ามันทำงานอย่างไร
คนเรามีความรัก
แต่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมัน
หากใครยังไม่ได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้
รีบจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วนะคะ
พิมพ์ ครั้งที่ 7 แล้ว
และ ขึ้นอันดับ 1 Bestseller ของ Se-ed เชียวนา
ให้ไว ให้ไว .....
มีความสุขในวันวาเลนไทม์ นะคะ
ปล. ภาพจากอินเตอร์เน็ต
Tuesday, February 2, 2010
ถนนคนเดินทาง พิบูลศักดิ์ ละครพล - ขุนเขาแห่งความทรงจำสีขาว - Thai Poem
เดินทางหมื่นล้านไมล์
คงไร้ความหมาย
หากไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง”
Saturday, January 30, 2010
จดหมายรักนักฝัน - Thai Poem
ฉันมาฉุกคิดได้ หลังจากคุยกับความว้าเหว่เมื่อคืนนี้
ฉันได้คำตอบว่า
ที่เราต้องเจ็บปวดเหลือ เมื่อรักลานั้น
เป็นเพราะว่า
เราพยายามลบเลือน
ความทรงจำที่ดี-ดีของคนรัก ออกไปจากใจ
หากสิ่งนั้น
ต้องการเวลาที่จะลบเลือน
สิ่งที่ความรักนำมาให้
แม้มิใช่แค่ความหอมหวาน
แต่ที่เหลือไว้
ก็หาใช่ เพียงความขมขื่น
ความรักก็เหมือนกาแฟนั่นแหละ
ทั้งที่รู้ว่าขม แต่เราก็ชื่นชมในกลิ่นหอม
ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=masharee&group=6
Tuesday, January 26, 2010
ผ่านพบไม่ผูกพัน - Thai Poem
พลัดพรากจากสถานที่คุ้นเคยและผู้คนคุ้นหน้า
กระทั่งบางทีอาจหมายถึงการถอยห่างจากอ้อมแขนของผู้เป็นที่รัก
แต่ระยะทางที่เพิ่มขึ้น ใช่หรือไม่ว่าอาจเปลี่ยนมิติของความสัมพันธ์
บางครั้งการเดินทางอาจหมายถึง
การแตกหักของโซ่ทองห่วงสุดท้ายที่เคยร้อยใจคน สองคนไว้ด้วยกัน
และในหลายๆครั้ง
มันก็เป็นแค่การเปลี่ยนที่ร้องไห้ของผู้ ที่เพิ่งทำความรู้สึกดีๆหล่นหาย
แต่สำหรับบางคน เพียงเหลือบแลแผนที่เส้นทาง
ก็อาจเพิ่มรอยขีดในหัวใจที่ลายล้นอยู่แล้วด้วยริ้วแผล
คนเรา บางทีหากไม่เปลี่ยนเงื่อนไขแวดล้อม
บางด้านของความรู้สึกย่อมไม่สามารถโผล่ผลิออกมา
คนเรา หากไม่ออกไปเผชิญคลื่นลมในทะเลกว้าง
หรือสัมผัสความเฉียบชันของโตรกผา
บางทีก็พานคิดว่าดาวเดือนบนเวิ้งฟ้าจะต้องโคจรรอบชีวิตตื้นของตัวเอง
สัมผัสโลกของบุคคลก็เฉกเช่นพรมผืนงาม
มีแต่ความรู้สึกที่คลี่ตัวอย่างถึงที่สุดเท่านั้น
จึงจะม้วนกลับได้อย่างหมดจดเรียบร้อย
ประเด็นมีอยู่ว่า เหนือบรรยากาศเปลี่ยวเหงา
หรือครึกครื้นขึ้นไป
ยังมีแก่นแท้ของการเดินทาง
ซึ่งก็คือการพลัดพรากผู้อื่น สิ่งอื่น เพื่อนัดพบกับตัวเอง
การเปิดพื้นที่โล่งให้กับการอยู่กับปัจจุบัน
ยามสางเมื่อเห็นแสงแรกของวันโลมไล้คลื่นเขา
จงเป็นหนึ่งเดียวกับภาพนั้นราวทั่วทั้งพิภพไม่มีสิ่งอื่นใด
ยามสายเมื่อนอนเหยียดอยู่บนพรมหญ้าริมลำห้วย
ก็อย่าปล่อยให้ภาพรุ่งอรุณตามมาปิดบังแฉกแดดที่ผ่านลอดลงมาจากยอดไม้
ครั้นตกค่ำยินหริ่งหรีดเรไร
ก็อย่าได้ฝังใจจำอยู่กับเสียงน้ำไหลที่กล่อมให้หลับตอนกลางวัน
คุณจะพบว่า ดวงตะวันสวยกว่าเดิม
ไอห้วยเย็นฉ่ำกว่าที่คิด สายน้ำมีถ้อยคำจะเอื้อนเอ่ย
อย่าว่าแต่ ค่ำคืนมีความไพเราะของมัน
ผ่านพบโดยไม่ผูกพัน บางทีอาจลึกซึ้งยั่งยืนกว่า ร้อยหัวใจเข้ากับทุกอย่างด้วยโซ่ตรวนที่มักตั้งชื่อผิดๆว่าความรัก
ที่มา : จากหนังสือ "ผ่านพบไม่ผูกพัน" เสกสรร ประเสริฐกุล
Tuesday, January 5, 2010
คิดถึง แต่ไม่โหยหา
ฉันเลือกซุกตัวนิ่ง ในวิถึแห่งตน
ยากที่จะทำใจให้ลืมเลือน
เพราะเธอคือคนที่หัวใจบอกเสมอว่า "รัก"
อยากจะรู้สึก "เฉยๆ"
หากแต่ที่ทำได้
คือ "คิดถึง แต่ไม่โหยหา
ห่วงใย แต่นิ่งงัน
คล้ายห่างไกลกันลิบ
แต่ใกล้แค่ได้ เจอกันในใจ"
คงแค่นั้น สำหรับเรา และสำหรับเรา